
คุณแม่ตั้งครรภ์ถ้ารู้ว่าต้องผ่าคลอดหรือเตรียมตัวคลอดด้วยวิธีผ่าคลอดอยู่แล้ว คงเตรียมใจรับความเจ็บปวดหลังคลอดไว้บ้างแล้ว และสิ่งที่จะติดตัวคุณแม่ไปตลอดคือ รอยแผลผ่าคลอด ดังนั้นคุณแม่ควรศึกษาการผ่าคลอดแบบแนวตั้งและแนวขวางกันไว้ด้วยนะคะ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร
แผลผ่าคลอดแนวยาว
คุณหมอจะเริ่มผ่าจากใต้สะดือลงไปถึงบริเวณหัวหน่าว ผ่านชั้นไขมัน ชั้นกล้ามเนื้อ เยื่อบุช่องท้องตามแนวยาวเหมือนกันทุกชั้น การผ่าแบบนี้จะทำให้คุณหมอสะดวกในการผ่ามาก เพราะถ้าแผลดูเล็กเกินไปก็สามารถขยายให้ใหญ่ขึ้นได้โดยการอ้อมขึ้นไปทางสะดือ
ข้อดีของแผลผ่าคลอดตามแนวยาว คือ ผ่าได้รวดเร็วใช้เวลาน้อย ผ่าง่าย เหมาะกับกรณีฉุกเฉิน สามารถขยายแผลออกได้ถ้าพบความผิดปกติระหว่างผ่าตัด เสียเลือดน้อย
ข้อเสียของแผลผ่าคลอดตามแนวยาว คือ แผลจะดูไม่สวยงาม รอยแผลแยกง่ายกว่าแนวขวาง เกิดแผลเป็นนูนง่ายกว่า
แผลผ่าคลอดแนวขวาง
แผลผ่าคลอดแนวนี้จะอยู่เหนือหัวหน่าวขึ้นไปเล็กน้อย อยู่บริเวณขอบกางเกงใน แผลผ่าคลอดปกติจะอยู่ที่ประมาณ 10-12 ซม. ถ้าแบบฉุกเฉิน จะขยายแผลออกไปได้กว้างสุดเพียง 14 ซม. เท่านั้น หมอจะทำการผ่าแบบแนวขวางตรงบริเวณชั้นไขมัน และจะเปลี่ยนเป็นแนวตั้งตรงชั้นกล้ามเนื้อและเยื่อบุช่องท้อง แต่พอมาถึงมดลูกจะกลับมาผ่าแบบขวางอีกที การผ่าในแนวขวางจะทำให้แผลผ่าแข็งแรงกว่าแนวนอนเพราะสลับการผ่าหลายชั้น
ข้อดีของแผลผ่าคลอดแบบแนวขวาง คือ แผลสวยกว่าเพราะผ่าตามแนวผิวหนัง แผลแยกน้อยกว่าแนวยาว
ข้อเสียของแผลผ่าคลอดแบบแนวขวาง คือ เสียเวลาในการผ่าคลอดมากกว่า เสียเลือดมากกว่า แผลขยายได้ไม่กว้างมากนักอาจมีอาการชาหลังจากผ่าคลอดแม้จะผ่านมาเป็นปีแล้วก็ตาม
ปกติแล้วในต่างประเทศในแถบยุโรป ถ้าต้องผ่าคลอดจะเน้นการผ่าแบบแนวขวางเพราะคนที่นั่นนิยมใส่ชุดว่ายน้ำเพื่ออาบแดด แผลผ่าคลอดจะอยู่แถวๆบิกินี่พอดีค่ะ แต่ในบ้านเราส่วนมากถ้าต้องผ่าคลอด จะดูเป็นกรณีไปค่ะ ถ้าฉุกเฉิน ก็ต้องผ่าแนวยาว ถ้าเตรียมตัวผ่าคลอดมาแล้ว ก็ผ่าแนวขวาง ขึ้นอยู่กับคุณแม่และนโยบายของโรงพยาบาลนั้นๆด้วยค่ะ ว่าเน้นผ่าคลอดแบบไหน
จาก http://www.maerakluke.com/
หน้าที่เข้าชม | 450,433 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 102,296 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 18 เม.ย. 2561 |